วันที่ 6 มีนาคม นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยถึงแถลงการณ์ของสมาคมฯว่า ขอคัดค้านการนำเข้าปลาจากฟุกุชิมะและขอให้ องค์การอาหารและยา(อย.) คุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคโดยสั่งให้เปิดเผยรายชื่อบริษัทตัวแทนผู้นำเข้าและเปิดเผยรายชื่อ 12 ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ใช้ปลานำเข้าจากฟุกุชิมะมาแล้วด้วย โดยให้แสดงฉลากหรือข้อมูลหน้าร้านอาหารของตนให้ชัดเจนว่าเป็น “ปลาจากฟุกุชิมะ” เพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจก่อนเข้าใช้บริการด้วย ตามที่เว็บไซด์หนังสือพิมพ์เจแปนไทม์ ได้รายงานว่าประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่จังหวัดฟุกุชิมะ ของญี่ปุ่นสามารถส่งออกปลาดิบมาขายในร้านอาหารญี่ปุ่น 12 ร้านในกรุงเทพฯได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา หลังประสบปัญหานิวเคลียร์รั่วไหลปนเปื้อนน้ำทะเล จากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 9.0 แมกนิจูดและเกิดสึนามิเมื่อปี 2554
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การนำเข้าอาหารทะเลจากฟุกุชิมะ ซึ่งมีความเสี่ยงของการปนเปื้อนของกัมมันตรังสีที่รั่วไหลลงทะเลญี่ปุ่น ชี้ให้เห็นถึงมาตรฐานการควบคุมการนำเข้าอาหารของประเทศไทยเป็นอย่างมาก เพราะทำให้คนไทยหรือผู้ที่นิยมบริโภคอาหารญี่ปุ่น มีความเสี่ยงที่จะได้รับสารกัมมันตรังสีซีเซียม (Caesium) ไม่มากก็น้อย ทั้งนี้คณะกรรมการวิทยาศาสตร์ว่าด้วยการวิจัยมหาสมุทร (Scientific Committee on Oceanic Research) ซึ่งประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายประเทศทั่วโลก พบว่าเมื่อปี 2011 ปลาทะเลที่จับนอกชายฝั่งจังหวัดฟูกูชิมะราวครึ่งหนึ่งมีรังสีปนเปื้อนเกินระดับปลอดภัย แต่พอถึงปี 2015 ตัวเลขกลับลดลงจนเกินลิมิตมาแค่ไม่ถึง 1% ซึ่งหมายความว่า เรานำเข้าปลามา 1,000 ตัว จะมีไม่ถึง 10 ตัวที่จะมีสารปนเปื้อนเกินมาตรฐาน หมายความว่า จะกินปลาญี่ปุ่นก็เหมือนซื้อหวย ถ้าถูก 2 ตัวท้ายมาก็เสี่ยงมะเร็ง จึงอยากจะสอบถามกรมประมง และคณะกรรมการอาหาร ว่ามีมาตรการในการตรวจสอบปลานำเข้าจากฟุกุชิมะทุกตัวหรือไม่ หรือตรวจสอบครั้งเดียวจบ